简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:วิเคราะห์ราคาทองคำ ทองคำจะได้ไปต่อหรือไม่ จับตา FOMC และวิกฤติ Evergrande
ทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากความเสี่ยงวิกฤตหนี้ของบริษัท Evergrande ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน
ความไม่แน่นอนต่อผลลัพธ์ของการประชุมนโยบายสองวันของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐที่จะจบลงด้วยการแถลงข่าวในวันพุธโดย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จำกัดความเสี่ยงเช่นกัน หุ้นดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายช่วงแรกก่อนผันผวนในเซสชั่นต่อมาจากการเก็งกำไรว่า Evergrande จะสามารถจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรมูลค่า 83 ล้านดอลลาร์ในวันศุกร์นี้ได้หรือไม่
ดัชนีดอลลาร์ เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ปรับตัวลดลงแตะระดับ 93.243 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.314
“ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ Evergrande ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาด ทองคำยังเป็นหลุมหลบภัยของนักลงทุนต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรัฐบาลจีนเข้ามาแทรกแซงหลังเปิดทำการในวันพรุ่งนี้” เจฟ ฮัลลี่ นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว
“ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หากธนาคารกลางมีคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับไทม์ไลน์ที่จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในการประชุมวันพุธ ทองคำจะกลับมามีทิศทางขาลงอีกครั้ง เนื่องจากนโยบายนี้จะนำไปสู่การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ มีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นสูงสุด $15.05 หรือ 0.9% ที่ 1,778.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในตลาด Comex ของนิวยอร์ก หลังจากทำระดับสูงสุดที่ 1,782.70 ในวันจันทร์ หลังวิกฤต Evergrande ถึงจุดเดือด ทองคำปิดสูงขึ้น 0.7%
ฮัลลี่ ตั้งข้อสังเกตว่าแม้การดีดตัวขึ้นในสองวัน แต่ทองคำยังคงมีแนวต้านที่ระดับ $1770
“แม้ว่ายังมีความเชื่อมั่นในความเสี่ยง แต่ยากที่จะเห็นทองคำฟื้นคืนกลับมา ทองคำมีแนวรับที่ 1742 ดอลลาร์ ตามด้วย 1720 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามด้วยแนวรับระยะยาวที่ 1675 ดอลลาร์ต่อออนซ์”
การประชุม FOMC อาจทบทวนเรื่องการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางที่ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้ซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์อื่น ๆ มูลค่า หนึ่งแสนสองหมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ในเดือนมีนาคม 2020 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ใกล้ศูนย์
จนถึงตอนนี้ ประธานพาวเวลล์และเพื่อนร่วมงานอาวุโสส่วนใหญ่ของเขา ได้เผยข้อความที่มีนัยเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเห็นพ้องต้องกันว่าจะยังไม่ดำเนินการจนถึงเดือนพฤศจิกายน
หากไม่มีประกาศว่าจะลดสินทรัพย์ลงในทันที อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตร ทองคำก็ได้ไปต่อ
คำแนะนำวันนี้ หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,782 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้อง ระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อ ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุด โซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,758-1,742 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ระยะสั้น
คําแนะนํา เปิดสถานะขายเพื่อทํากําไรระยะสั้น หรือ ทยอย ปิดสถานะซื้อเพื่อทํากําไรบางส่วนหากราคาทองคําไม่สามารถ ยืนเหนือบริเวณ 1,782 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ เพื่อรอซื้อใหม่ หากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ ควรคํานึงถึงการเหวี่ยงตัวของราคาจากผลการประชุม FED
แนะนำฟีเจอร์ “การเปิดเผย” เราแนะนำถ้าโดนโบรกเกอร์โกง คุณสามารถมาร้องเรียนโบรกเกอร์ในนี้ได้ หรือถ้าคุณอยากดูรีวิวโบรกเกอร์จากผู้ใช้จริง สามารถกดเข้าไปที่ ‘การเปิดเผย’ และคุณจะเจอการร้องเรียนโบรกเกอร์ Forex จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อใช้พิจารณาการเลือกโบรกเกอร์!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําเปิดตลาดวานนี้บริเวณ 1,801.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุปราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 5.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาเบากว่าปกติ เนื่องจากตลาดเงินและตลาดทุน รวมถึงตลาดทองคําของบาง
สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.31 ติขลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําเผชิญกับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยายุ 10 ปี
สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําถูกกดดันจากแรงขายทํากําไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อน