简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เป็นที่น่าสังเกตว่า “การเผา ETH” นั้นเป็นการลดอุปทานหมุนเวียนของ ETH อย่างถาวรซึ่งตามทฤษฎีแล้วจะต้องทำให้เกิดการจำกัดอุปทานหมุนเวียนของ ETH
เป็นที่น่าสังเกตว่า “การเผา ETH” นั้นเป็นการลดอุปทานหมุนเวียนของ ETH อย่างถาวรซึ่งตามทฤษฎีแล้วจะต้องทำให้เกิดการจำกัดอุปทานหมุนเวียนของ ETH ซึ่งเป็นเป้าหมายของการ Hard Fork นับตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2021 รวมไปถึง EIP-1559 ด้วย ตั้งแต่เดือนสิงหาคมการเผานั้นพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งดูเหมือนจะเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการใช้งานของ DeFi และ NFT โดยแท้จริงแล้วนั้นมีการทำสถิติใหม่ในวันที่ 10 มกราคมตามสถิติจาก Watch the Burn
ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ติดตามการเผา Ethereum ได้บันทึกข้อมูลไว้ว่ามี ETH ทั้งหมดถูกเผาไปกว่า 19,424 ETH ภายในวันเดียวซึ่งมากกว่าสถิติสูงสุดครั้งเก่าที่จำนวนการเผานั้นอยู่ที่มากกว่า 16,000 ETH เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 การเติบโตของแพลตฟอร์ม DeFI Alex Svanevik ซึ่งเป็น CEO ของ Nansen ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลสถิติของ Ethereum จะทำการแชร์ข้อมูลกราฟหลายกราฟผ่านบัญชี Twitter ของเขาซึ่งจะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์ม Uniswap (ทั้ง v2 และ v3) และ OpenSea ได้มีส่วนหลัก ๆ กับการเผาที่เกิดขึ้นของ ETH แม้ว่า OpenSea จะเป็นอันดับที่สองในการเผาเหรียญ Ethereum ในปี 2021
ตามรายงานที่ถูกเผยแพร่โดย Defiant ซึ่งบันทึกไว้ว่า OpenSea เป็นแพลตฟอร์มที่มีการเผา ETH มากที่สุดในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นจำนวนกว่า 2,755 ETH ที่ถูกเผาไปตั้งแต่มีการเปิดใช้งาน EIP-1559 ตั้งแต่เดือนสิงหาคม NFT มีส่วนช่วยในการเผา Ethereum ความสนใจใน NFT ที่มากขึ้นนั้นก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเผา ETH มากขึ้นเป็นผลให้การเข้าไปใช่งานตลาดอย่าง OpenSea ต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมเนื่องจากเกิดความมีปริมาณต้องการที่เพิ่มมากขึ้น จากสถิติแม้จะยังไม่หมดเดือนมกราคมแต่นี่ก็เป็นหนึ่งในเดือนที่คึกคักที่สุดของตลาด NFT บนแพลตฟอร์ม OpenSea โดยได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามข้อมูลจาก Dune.xyz
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายใหม่เพื่อเก็บภาษีรายได้จากคริปโทในเปอร์โตริโก หลังพบช่องโหว่ทางภาษีดึงดูดนักลงทุนย้ายถิ่นแต่ไม่ช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่น ร่างกฎหมายนี้อาจส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ภายใต้ Act 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขณะที่อนาคตของร่างกฎหมายยังไม่แน่นอนท่ามกลางการถกเถียงในสภา.
แม้ทรัมป์เคยลั่นว่าจะดันสหรัฐฯ เป็นประเทศมิตรกับคริปโทที่สุดในโลก แต่หลังรับตำแหน่งจริงกลับไร้นโยบายชัดเจน ขณะเดียวกัน พอร์ตคริปโทรัฐบาลสหรัฐฯ หายไปร่วม 26% ใน 3 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง แถมนโยบาย "ภาษีวันปลดปล่อย" ยังซัดตลาดคริปโทร่วงยับกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์!
ราคาของ Bitcoin ร่วงลงกว่า 2.19% สู่ระดับ $83,259 หลังจากนโยบายภาษีตอบโต้ของทรัมป์มีผลบังคับใช้ ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยไทยเองก็โดนผลกระทบจากภาษีนำเข้าสูงถึง 36% นอกจาก BTC แล้ว Altcoin ส่วนใหญ่ก็ดิ่งลงเช่นกัน มีเพียงไม่กี่โปรเจกต์ที่ยังคงต้านทานแรงกดดันจากตลาดได้
Scammer ในโลก Crypto มักใช้วิธีหลอกลวงต่าง ๆ เช่น การปลอมแปลง ICO, ใช้ Wallet ปลอม หรือการ Phishing เพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีการปั่นราคาเหรียญและหลอกให้ลงทุนตามกระแส การใช้โบรกเกอร์เถื่อนก็เสี่ยงต่อการสูญเสียเหรียญ จึงควรระมัดระวังและตรวจสอบให้ดี.