简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทิศทางตลาดการเงินโลก หาก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ชนะศึกเลือกตั้ง
ตลาดการเงินคาดว่าจะผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งนี้ ชวนวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาคการเงินจากโอกาสที่การเมืองในสหรัฐฯ จะเปลี่ยนแปลงไปหลังการเลือกตั้งครั้งนี้
ประเมินผลกระทบต่อตลาด หลังจากไบเดนถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
นักลงทุนในตลาดการเงินรวมถึงโพลต่างๆ เดิมพันกันมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาว และหันมาถือ Bitcoin (BTC) มากขึ้น
แต่การตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน และสนับสนุนรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ถือเป็นเหตุการณ์ช็อกทางการเมืองครั้งล่าสุดที่ถูกรับรู้ในตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนประเมินตลาดการเงินใหม่อีกครั้ง เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่นักลงทุนเรียกกันว่า ‘Trump Trade’ โดยทางด้าน อนาโตล คาเลตสกี ผู้ร่วมก่อตั้ง และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน Gavekal มองว่านักลงทุนน่าจะลดสถานะการเดิมพันจำนวนมาก เนื่องจากการแข่งขันการเลือกตั้งมีมุมมองที่เปลี่ยนไป
ทำความเข้าใจกับ Trump Trade
ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูสิ่งที่เรียกว่า Trump Trade อย่างใกล้ชิด
Trump Trade เป็นคำที่ใช้เรียกชุดพฤติกรรมของตลาดและกลยุทธ์การลงทุนที่เกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อนของทรัมป์ เนื่องจากนักลงทุนวางสถานะการลงทุนเพื่อรับประโยชน์จากนโยบายเชิงธุรกิจและวาระทางเศรษฐกิจในช่วงวาระแรกของทรัมป์
ตลาดแสดงแนวโน้มที่แตกต่างกันหลายประการ เช่น ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี การเงิน อุตสาหกรรม และพลังงาน ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากนโยบายส่งเสริมธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกฎหมายลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลยังปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังในการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะลดลงในเวลาต่อมา เนื่องจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่สกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ทรัมป์อ้าง แต่การแข็งค่าก็มีผลกระทบต่อการส่งออก สินค้านำเข้า และการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐฯ
การตอบสนองของตลาดเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในวงกว้างในหมู่นักลงทุน และมองว่าการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ของทรัมป์อาจเป็นประโยชน์ต่อบางภาคส่วนและสินทรัพย์บางประเภทเช่นกัน
หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024
ภาคส่วนการเงินที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการชนะเลือกตั้งของทรัมป์ ได้แก่ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ หุ้น Small Cap และตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
ตลาดอสังหาของสหรัฐฯ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ทรัมป์มีความเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัว และเขายังรู้จักนักธุรกิจที่ทรงอำนาจมากมายในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่เขาจะผลักดันทางการเมือง เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ให้กลับมายืนได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเป็นสิ่งที่ลงตัวกับการมุ่งเน้นทางการเมืองของทรัมป์ในการปรับปรุงชีวิตของชาวอเมริกันทั่วไป
หุ้น Small Cap ของสหรัฐฯ อาจได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กของทรัมป์ โดยดัชนีการมองโลกในแง่ดีของธุรกิจขนาดเล็กของ NFIB แสดงให้เห็นว่าในปี 2016 และ 2020 เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเอนเอียงไปข้างพรรครีพับลิกันและทรัมป์ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่ากลุ่มทุนขนาดเล็กจะเติบโตได้อีกครั้งเมื่ออยู่ในวาระตำแหน่งของเขา
อุตสาหกรรมคริปโตตอบสนองเชิงบวกเมื่อตลาดคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจได้รับชัยชนะ แม้ว่าทรัมป์ยังไม่ได้เสนอข้อเสนอโดยละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล แต่แคมเปญของทรัมป์ที่เริ่มรับเงินบริจาคจากอุตสาหกรรมคริปโตในเดือนพฤษภาคม ท่าทีเชิงบวกมากขึ้นของเขาเกี่ยวกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว รวมถึงการพยายามวางตำแหน่งตัวเองต่อต้านพรรคเดโมแครตที่สนับสนุนการคุมอำนาจในภาคอุตสาหกรรมคริปโต เช่น เอลิซาเบธ วอร์เรน สมาชิกวุฒิสภา ทำให้ทรัมป์ถูกมองว่าอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อคริปโตและ Bitcoin
นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อไปสำหรับราคาของ Bitcoin และชัยชนะของทรัมป์อาจผลักดันให้ราคาสูงถึง 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้
ขอบคุณสำนักข่าว THE STANDARD
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GVD Markets ออกคำเตือนด่วนถึงนักเทรดทั่วโลก หลังพบเว็บไซต์ปลอมในอินโดนีเซียแอบอ้างชื่อและโลโก้ของบริษัท เพื่อหลอกลวงให้ผู้ใช้ฝากเงิน ก่อนยึดทรัพย์สินโดยผิดกฎหมาย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงิน GVD Markets จึงร่วมกับ WikiFX เร่งตรวจสอบ พร้อมแนะนำให้นักเทรดตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และรายงานกิจกรรมต้องสงสัยทันที เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ในอนาคต
Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุน แชร์ 5 หลักการเร่งเส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาด Forex โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกนานปี เน้นวินัย ระบบความเสี่ยงที่ชัดเจน คุมขาดทุนรายวัน มีกลยุทธ์สำรอง และควบคุม Drawdown จุดสำคัญคือ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ” – เพราะตลาดมีทุกวัน แต่พอร์ตพังได้แค่ครั้งเดียว.
บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.
วงการคริปโตในไทยอาจได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ หลัง Binance มีแนวโน้มจะถอด “เงินบาท” ออกจากระบบซื้อขายแบบ P2P ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง ก.ล.ต. ไทยออกมาตรการควบคุมธุรกรรมคริปโตอย่างเข้มงวด เพื่อต่อสู้กับบัญชีม้าและการฟอกเงิน โดย Binance ยังไม่ระบุวันชัดเจน แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อพฤติกรรมนักลงทุนและภาพรวมตลาดคริปโตในประเทศ.