简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความนี้นำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาษีจากการใช้คริปโต ซึ่งนักเทรด นักขุด และผู้ถือครองคริปโตควรทราบ รายได้ที่ต้องเสียภาษี ได้แก่ กำไรจากการซื้อขาย รายได้จากการขุด รับเหรียญจาก Airdrop, Staking และการใช้คริปโตซื้อสินค้าและบริการ บุคคลธรรมดา เจ้าของธุรกิจ และนักลงทุนต่างชาติที่มีรายได้ในไทยอาจเข้าข่ายต้องเสียภาษี โดยกำไรจากคริปโตอาจถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และต้องเสียภาษีเงินได้ ควรติดตามนโยบายภาษีล่าสุดเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องและวางแผนภาษีอย่างรอบคอบ
แอดเหยี่ยวขอพานักเทรดทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ “ภาษีจากการใช้คริปโต” ไม่ว่าจะเป็นสายเทรด สายขุด หรือสายถือยาว มาดูกันว่าใครบ้างที่ต้องเสียภาษี และมีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง!
รายได้จากคริปโตที่ต้องเสียภาษีมีอะไรบ้าง?
ถ้านักเทรดมีรายได้จากการใช้คริปโตในรูปแบบเหล่านี้ ก็เข้าข่ายต้องเสียภาษีแน่นอน:
ใครบ้างที่ต้องเสียภาษี?
อัตราภาษีคริปโตในไทยเป็นอย่างไร?
สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ
ดังนั้น นักเทรดทั้งหลาย อย่าลืมวางแผนภาษีให้ดี จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง! ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม คอมเมนต์ถามกันได้เลย แอดเหยี่ยวพร้อมซัพพอร์ต!
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Malone Lam ชาวสิงคโปร์วัย 20 ปี ถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ ฐานขโมย 4,100 BTC มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีหลอกลวงเหยื่อผ่าน social engineering และฟอกเงินด้วย crypto mixers หากถูกตัดสินว่าผิด เขาอาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยมีกำหนดไต่สวนวันที่ 6 ตุลาคม 2025
แม้ว่า Bitcoin จะถูกออกแบบให้เป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" แต่ปัจจุบันกลับถูกใช้เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายจริง อุปสรรคหลักที่ขัดขวางการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความซับซ้อนของเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ความล่าช้า และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม Lightning Network ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มรองรับ Bitcoin มากขึ้น เช่น การชำระเงินผ่าน POS การโอนเงินแบบ Lightning Address และการใช้ The Bolt Card Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายทั่วโลกในอนาคต
นักวิเคราะห์เตือน! ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญแล้ว เป้าราคาต่อไปอาจอยู่ที่ $69,000
เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วโลก จากแพลตฟอร์มที่เคยได้รับความไว้วางใจสูงสุด สู่การล้มละลายในเวลาไม่กี่วัน ปัญหาเกิดจากความเชื่อมโยงทางการเงินที่ไม่โปร่งใสระหว่าง FTX และ Alameda Research นำไปสู่ความตื่นตระหนกของนักลงทุน การเทขายโทเค็น FTT และการขาดสภาพคล่อง สุดท้าย FTX ต้องยื่นล้มละลาย และ SBF ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบพื้นฐานบริษัท การกระจายความเสี่ยง และการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าส่วนตัว มากกว่าฝากไว้กับแพลตฟอร์มเพียงแห่งเดียว
XM
IB
Exness
AvaTrade
Vantage
FOREX.com
XM
IB
Exness
AvaTrade
Vantage
FOREX.com
XM
IB
Exness
AvaTrade
Vantage
FOREX.com
XM
IB
Exness
AvaTrade
Vantage
FOREX.com