简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นักวิเคราะห์เตือน! ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญแล้ว เป้าราคาต่อไปอาจอยู่ที่ $69,000
Benjamin Cowen นักวิเคราะห์คริปโตเตือนว่าการปิดรายสัปดาห์ครั้งแรกของ Bitcoin ที่ต่ำกว่าแถบแนวรับตลาดกระทิงอาจส่งสัญญาณถึงจุดสูงสุดของวัฏจักร
ในขณะที่ Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 79,000 ดอลลาร์ Cowen แสดงความกังวลในพอดแคสต์เมื่อวันจันทร์ โดยสังเกตว่า ราคา BTC ปิดต่ำกว่าแถบแนวรับตลาดกระทิงในกรอบเวลารายสัปดาห์เป็นครั้งแรกนอกไตรมาสที่ 3 ในวัฏจักรนี้
“นี่คือการเบี่ยงเบนจากวัฏจักรในอดีต” เขาแถลง โดยเน้นย้ำว่า ROI หนึ่งปีของ Bitcoin กำลังลดลง ซึ่งแตกต่างจากในปี 2017 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนมีนาคม
Cowen เชื่อว่าความอ่อนแอของ Bitcoin เกิดจากสภาวะตลาดในวงกว้าง โดยอธิบายว่า “คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดว่าทำไม Bitcoin ถึงลดลงก็คือเพราะตลาดหุ้นลดลง”
ในขณะที่ S&P 500 ได้ลบล้างผลกำไรหลังการเลือกตั้งทั้งหมด Bitcoin ยังไม่ได้ทำตามอย่างเต็มที่ แม้ว่าเขาจะเตือนว่ามันอาจย้อนกลับไปที่ 68,000–69,000 ดอลลาร์เพื่อตอบสนอง
จุดสูงสุดของวัฏจักรหรือการฟื้นตัว?
Cowen ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin สามารถทดสอบ 69,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้า โดยไม่ทำลายแนวโน้มในอดีต “Bitcoin สามารถลดลงเหลือ 69,000 ดอลลาร์ และยังคงติดตามวัฏจักรปี 2016–2017 ได้” เขาอธิบาย
อย่างไรก็ตาม เขาตั้งเกณฑ์สำคัญไว้ว่า “หาก Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์ มีโอกาสสูงที่วัฏจักรจะถึงจุดสูงสุดแล้ว การดิ่งลงอย่างรวดเร็วไปที่ 69,000 ดอลลาร์อาจทำให้มีการฟื้นตัวได้ แต่การลดลงที่ลึกกว่าไปที่ 62,000–63,000 ดอลลาร์น่าจะหมายถึงวัฏจักรขาขึ้นสิ้นสุดลงแล้ว”
Cowen คาดการณ์ว่า Bitcoin จะยังคงอยู่ใน “ช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอ” จนกว่าออปชันเดือนมีนาคมจะหมดอายุ ซึ่งอาจกินเวลาถึงต้นเดือนเมษายน
“Bitcoin จะลดลงต่ำแค่ไหนในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนดว่าวัฏจักรนี้ถูกแปลไปทางขวา (ขาขึ้น) หรือแปลไปทางซ้าย (ขาลง)” เขาตั้งข้อสังเกต หาก BTC หลีกเลี่ยงการสูญเสียที่ลึกกว่า เดือนเมษายนอาจนำโมเมนตัมขาขึ้นกลับมาอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก benzinga
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
Neex
AvaTrade
STARTRADER
KVB
FXCM
Pepperstone
Neex
AvaTrade
STARTRADER
KVB
FXCM
Pepperstone
Neex
AvaTrade
STARTRADER
KVB
FXCM
Pepperstone
Neex
AvaTrade
STARTRADER
KVB
FXCM
Pepperstone