简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในยุคที่มิจฉาชีพทางการเงินสวมคราบมืออาชีพ ความโลภและความหวังกลายเป็นช่องโหว่ให้คนฉลาดยังตกเป็นเหยื่อ รูปแบบหลอกลวงหลากหลาย ตั้งแต่แชร์ลูกโซ่ แพลตฟอร์มปลอม จนถึงการใช้ชื่อคนดัง การมีภูมิคุ้มกันทางการเงินและสติ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด เพราะโจรมักเร่งให้ตัดสินใจก่อนคิดเสมอ
เพราะ “ความโลภ” ยังเป็นจุดอ่อนของมนุษย์เสมอ ความฝันเรื่องอิสรภาพทางการเงินอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว ความจริงก็คือ…หลุมพรางของมันก็ลึกขึ้นและซับซ้อนขึ้นทุกวัน
มิจฉาชีพการเงินไม่ได้มาในคราบโจรอีกต่อไป พวกเขาสวมสูท พูดดี มีเพจรีวิว มีไลฟ์สด มีผู้ติดตามหลักแสน และบางครั้งก็มีภาพลักษณ์ของคนประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างเหลือเชื่อ นั่นทำให้หลายคนเผลอเชื่อ โอนเงิน และกลายเป็นเหยื่อในที่สุด
คนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ใช่เพราะไม่มีความรู้ แต่เพราะความหวัง ความโลภ หรือความประมาทชั่วขณะ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน หลายคนต้องการทางลัด ต้องการโอกาสพิเศษที่คนอื่นยังไม่รู้ นี่คือจุดที่ทำให้โจรใช้ช่องว่างจิตใจในการเข้าถึง
1.ความหวัง: อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นไวๆ
2.อีโก้: อยากได้โอกาสที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง
3.ความโลภ: ยอมเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนสูงผิดปกติ
เมื่อโจรมาในคราบโอกาสทอง ความสามารถในการไตร่ตรองของเราจะลดลงโดยไม่รู้ตัว
1.แชร์ลูกโซ่ชักชวนให้ลงทุนโดยการันตีผลตอบแทนสูง หากชวนคนเพิ่มจะได้โบนัสพิเศษ แต่ไม่มีสินค้าหรือธุรกิจจริงรองรับ
2.แพลตฟอร์มเทรดปลอม
สร้างเว็บหรือแอปที่หน้าตาเหมือนของจริง อ้างว่าเป็นตัวแทนเทรดหุ้น คริปโต หรือ Forex เมื่อลงทุนไปจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
3.ปลอมชื่อคนดังใช้ภาพหรือเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา ยูทูบเบอร์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อโฆษณาให้ลงทุน โดยไม่มีความเกี่ยวข้องจริง
4.ICO และเหรียญดิจิทัลปลอม
สร้างโปรเจกต์หรือเหรียญดิจิทัลปลอมขึ้นมา แล้วระดมทุนจากผู้สนใจ โดยไม่มีแผนการพัฒนาใดๆ
5.กลุ่มไลน์-เฟซบุ๊กปลอม
ชวนเข้ากลุ่มที่ดูมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเรื่องการเงิน แต่เบื้องหลังคือทีมงานที่เตรียมหลอกให้โอนเงิน
การรู้เท่าทันเรื่องการลงทุนไม่ใช่เรื่องเฉพาะของนักลงทุนอีกต่อไป แต่เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับทุกคนที่ต้องใช้เงิน ตั้งแต่การออม การจัดการรายรับรายจ่าย ไปจนถึงการวางแผนอนาคต เราทุกคนควรมี “ภูมิคุ้มกัน” ทางการเงิน ยิ่งเข้าใจมาก ยิ่งแยกแยะความจริงกับหลอกลวงได้ดีขึ้น ยิ่งรู้ทันมาก ยิ่งตัดวงจรของมิจฉาชีพออกจากชีวิตได้ง่ายขึ้น
บทเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากสะท้อนอย่างชัดเจนว่า การถูกหลอกไม่ใช่ความผิด แต่การไม่เรียนรู้จากเรื่องที่เกิดขึ้น อาจนำไปสู่ความเสียหายซ้ำซ้อน
หากเราทุกคนเริ่มต้นจากการตั้งคำถาม และใช้สติพิจารณาให้มากกว่าความอยากได้ เราจะสามารถสร้างสังคมที่ปลอดภัยทางการเงินได้จริง
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ปลายเดือนมิถุนายน 2568 นักลงทุนคริปโตถูกปล้นเงินสดกว่า 3.4 ล้านบาทกลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ขณะทำธุรกรรมซื้อขายเหรียญดิจิทัลกับกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนและมีดในการก่อเหตุ ผู้เสียหายได้นัดหมายซื้อขายล่วงหน้า ก่อนถูกบุกปล้นและหลบหนีโดยรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวน พบมีการวางแผนล่วงหน้า เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงสูงของการทำธุรกรรมนอกระบบและถือเงินสดจำนวนมากในตลาดคริปโต
Trezor เตือนผู้ใช้งานทั่วโลกถึงแคมเปญฟิชชิ่งที่แอบอ้างเป็นทีมซัพพอร์ต เพื่อหลอกขอข้อมูลสำคัญอย่าง seed phrase โดยใช้ฟอร์มติดต่อบนเว็บไซต์หลอกระบบส่งอีเมลอัตโนมัติ Trezor ย้ำว่าไม่มีนโยบายขอข้อมูลสำรองใด ๆ และระบบยังปลอดภัย ขณะเดียวกัน การโจมตีแบบ spear phishing ในวงการคริปโตยังเกิดถี่ขึ้น วิธีป้องกันคือไม่เปิดเผย seed phrase และตรวจสอบแหล่งที่มาของอีเมลทุกครั้ง.
Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin เดินหน้ามาตรการปราบปรามการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลในทางที่ผิด อายัดเหรียญ USDT มูลค่ากว่า 12.3 ล้านดอลลาร์ บนเครือข่าย Tron
บทความกล่าวถึงคดีแชร์แม่มณี ซึ่งใช้โซเชียลมีเดียสร้างภาพความร่ำรวยเพื่อชักชวนให้คนร่วมลงทุนในระบบแชร์ลูกโซ่ จนมีผู้เสียหายกว่า 4,000 ราย สูญเงินรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ชี้ให้เห็นอันตรายของการลงทุนที่ไร้การตรวจสอบ และเตือนให้มีสติเมื่อเจอข้อเสนอที่ “ดีเกินจริง”